เข้าใจก่อนดูดไขมัน เพื่อความเฟิร์มอย่างไร้กังวล

รู้จักการดูดไขมันอย่างละเอียดแล้วหรือยัง?

เชื่อว่าก่อนตัดสินใจดูดไขมันทุกคนต้องมีการศึกษาและหาความรู้ประกอบการตัดสินใจอย่างแน่นอน นั้นหมายความว่าการศึกษาการดูดไขมันต้องการรับความรู้และข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริง อย่างถูกต้องและมั่นใจได้ว่าสิ่งต่างๆจะเป็นคำตอบประกอบการตัดสินใจอย้่างครบถ้านและสามารถใช้วิจารณญาณได้อย่างมีทิศทาง

การดูดไขมันคืออะไร?

การดูดไขมัน (Liposuction) คือ การศัลยกรรมรูปแบบหนึ่ง ที่ช่วยกำจัดปัญหาไขมันส่วนเกิน ได้อย่างตรงจุด เช่นไขมันสะสมบริเวณหน้าท้อง, ต้นแขน, ต้นขา, เอว หรือเหนียง เป็นต้น การดูดไขมัน ยังนับว่าเป็นทางลัดในการลดสัดส่วนรูปแบบหนึ่ง ที่มีความปลอดภัย และเห็นผลชัดเจนมากหลังทำ

แม้ว่าการดูดไขมันจะทำให้สัดส่วนที่เล็กลง และมีรูปร่างที่ผอมลง แต่ไม่ใช่การลดน้ำหนักอย่างที่เข้าใจกันในคนส่วนใหญ่ การดูดไขมันในปัจจุบันมีความเสี่ยง และมีความอันตรายน้อยมาก หาดเลือกดูดไขมันที่มีความปลอดภัยและได้มาตรฐานระดับสากล มีห้องผ่าตัดปลอดเชื้อ และมีวิสัญญีแพทย์ คอยเฝ้าระวังอาการอย่างต่อเนื่อง (สำหรับการดูดไขมันแบบวางยาสลบ) ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามและเชื่อเสมอมาว่าแม้ได้รับการดูไขมันในราคาที่แสนถูกก็ใช่ว่าจะปลอดภัยและได้ผลลัพธ์อย่างที่หวังไว้แน่นอน

ดูดไขมันราคาเท่าไร?

ปัจจุบันสถาบันดูดไขมันมีอยบู่มากมาย ซึ่งราคาของแต่ละที่ก็แตกต่างกันไปตั้งแต่ราคาถูกไปจนถึงราคาแพง และเชื่อว่าราคาเป็นอันดับต้นๆที่ช่วยประกอบการตัดสิน (คนทั่วไปชอบของถูกก็เป็นเรื่องปกติ) แต่จะมั่นใจได้อย่างไรว่าดูดไขมันในราคาถูกจะดีอย่างที่คิด? Mia Clinic  จึงจะมาไขข้อข้องใจเกี่ยวกับราคาดูดไขมันว่าขึ้นอยู่กับปัจจัยอะไรบ้าง? 

ทำไมการดูดไขมันถึงมีราคาสูง?

1. การใส่ Tumescent (น้ำเกลือ, ยาชา และ Adrenaline)
2. การสลายไขมัน (แยกไขมัน) ด้วยครื่องดูดไขมันชนิดต่าง ๆ
3. การดูดไขมันออกมา

การดูดไขมันในขั้นตอนเหล่านี้สามารถดูดได้ทุกจุด ทุกตำแหน่งของร่างกาย โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ที่มีประสบการณ์ตรง เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ได้ออกมีประสิทืธิภาพมากที่สุด ปลอดภัยที่สุด 

ปัจจัยที่ทำให้ราคาดูดไขมันแต่ละที่แตกต่างกัน

1.เครื่องดูดไขมัน 

เครื่องดูดไขมันที่มีให้เลือกหลากหลายเครื่อง ตั้งแต่การใช้แรงมือของแพทย์, พลังงานน้ำ, พลังงานคลื่นเสียงอัลตร้าซาวด์, พลังงานกล และพลังงานคลื่นความถี่วิทยุ เป็นต้น ซึ่งแต่ละเครื่องก็จะมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันออกไป รวมไปถึงผลข้างเคียง และผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นก็จะแตกต่างกันด้วย

2. แพทย์ / ศัลยแพทย์

ศัลยแพททย์ที่จะดูดไขมันต้องมีประสบการณ์เฉพาะทาง และต้องมีความรู้ในแต่ละเคส ควรดูดไขมันในสัดส่วนต่างๆอย่างไร มีวิธีการและเทคนิคอย่างไรเพื่อให้ผลลัพธ์ที่ได้ออกมามีประสิทธิภาพสูงสุดและเป็นที่น่าพึงพอใจของคนใข้ ทั้งนี้ประสบการณืเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น การมีเทคนิคที่ดีในการดูดไขมัน ของแพทย์แต่ละคนก็มีความแตกต่างกันไป  แถมแพทย์ที่ดูดไขมันเฉพาะทาง ย่อมมีความเชี่ยวชาญมากกว่าแพทย์ที่ทำหลาย ๆ อย่างควบคู่กันไป

3. ห้องผ่าตัด      

ห้องผ่าตัด หรือห้องที่ใช้ในการดูดไขมัน ต้องเป็นห้องที่ได้มาตรฐาน และปลอดเชื้อ ตามหลักมาตรฐานสากล เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจจะมีเชื้อโรคหลุดลอดเข้าไป และเป็นอันตรายกับคนไข้ได้ซึ่งห้องผ่าตัดที่เป็นมาตรฐานสากลนั้น มีอยู่ที่โรงพยาบาลชั้นนำก็จริง แต่ไม่ได้มีกันทุกที่ ดังนั้นเราควรศึกษาและพิจารณาว่า ห้องผ่าตัดของคลินิกดูดไขมันได้รับมาตรฐานตามหลักสากลหรือไม่

4.การวางยาสลบด้วยวิสัญญี่แพทย์

สำหรับคนใข้ที่ต้องการดูดไขมันหลายตำแหน่ง  รวมกับการดูดไขมันตำแหน่งอื่นๆ แต่กังวลว่าทนไม่ไหว เพราะกลัวเจ็บมาก แนะนำให้วางยาสลบ โดยวิสัญญีแพทย์ เพื่อให้คนไข้ไม่ต้องกังวลระหว่างดูดไขมันต้นแขน ไม่ต้องกลัวว่าจะเจ็บ และขอหยุดดูดไขมันต้นแขนกลางทาง

วิธีดูดไขมัน

 การดูดไขมันแบบดั้งเดิม (Conventional Liposuction หรือ Manual Liposuction) เป็นการดูดไขมันที่ใช้แรงของแพทย์เพียงอย่างเดียว โดยแพทย์จะสอดเข็มเข้าไปที่ชั้นไขมันใต้ผิวหนังแล้วใช้แรงมือกระทุ้งให้ไขมันแตกตัวออกจากกัน จากนั้นจึงใช้ไซริ้งค์ (Syringe) ดูดไขมันออกมา 

         วิธีการดูดไขมันที่ใช้แรงกระแทกนี้ จะทำให้เนื้อเยื่อโดยรอบ เส้นเลือดและเส้นประสาทข้างเคียงได้รับความเสียหาย ทำให้ระหว่างที่ทำการดูดไขมันคนไข้จะรู้สึกเจ็บปวดมาก หลังทำมีอาการบวมมาก มีรอยฟกช้ำมากนั่นเอง

การดูดไขมันด้วยการใช้ท่อธรรมดา (SAL : SUCTION-ASSISTED LIPOSUCTION) เริ่มมาจากแนวคิดที่ว่า ดูดไขมันอย่างไรให้ได้ปริมาณเยอะขึ้น ใช้ระยะเวลาน้อยลง ในระหว่างทำคนไข้ไม่รู้สึกเจ็บ และไม่ทำลายเนื้อเยื่อ เส้นเลือด เส้นประสาทข้างเคียง หลังทำไม่มีการบอบช้ำมาก จึงเริ่มมีการคิดค้นการฉีดน้ำยาที่ประกอบไปด้วยยาชาและยาที่ทำให้เส้นเลือดหดตัวเข้าไปก่อนการดูดไขมัน (เพื่อลดความเจ็บปวดและอาการบอบช้ำหลังดูดไขมันให้กับคนไข้) ไปพร้อม ๆ ไปกับการนำท่อที่มีแรงดูดสุญญากาศมาใช้ในการดูดไขมัน

การดูดไขมันด้วยเลเซอร์ (Laser Diode Liposuction, Laser-Assisted Liposuction) เป็นอีกวิธีหนึ่งที่สามารถช่วยให้ผิวหลังดูดไขมันกระชับตัวขึ้นได้ การดูดไขมันด้วยเลเซอร์ เป็นการนำเลเซอร์มาช่วยในการผลิตพลังงานความร้อน ซึ่งเลเซอร์จะสามารถผลิตพลังงานความร้อนได้ที่ระดับอุณหภูมิ 40 – 60 องศาเซลเซียส ด้วยความที่มีอุณภูมิที่ไม่สูงมาก จึงมีข้อเสียคือใช้ระยะเวลาในการรักษานาน เห็นผลช้า ดูดออกมาได้น้อย แต่มีความปลอดภัยสูง

การดูดไขมันพลังงานน้ำ (WATER JET ASSISTED LIPOSUCTION) 

ทคโนโลยีในการดูดไขมันที่ใหม่ที่สุด และอ่อนโยนที่สุด คือการดูดไขมันโดยใช้พลังงานน้ำ ซึ่งมีหลักการคือ “ดูดไขมันอย่างไร โดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อข้างเคียง ” เครื่องดูดไขมันพลังน้ำ หรือ Body-jet (ชื่อทางการค้า) เป็นนวัตกรรมใหม่จากประเทศเยอรมันนี

          เครื่องดูดไขมันพลังน้ำนี้ จะใช้แรงดันน้ำในการอัดน้ำที่ประกอบด้วยยาชาและยาที่ทำให้เส้นเลือดหดตัวเข้าไปที่ชั้นไขมัน เพื่อให้เซลล์ไขมันที่เกาะติดกันเป็นพวงองุ่นแตกตัวกันออกมาอย่างอ่อนโยน ไขมันที่ถูกดูดออกมาจะอยู่ในสภาพดี มีชีวิตอยู่ สามารถนำไปเติมเต็มส่วนต่าง ๆ ในร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ