Mia Clinic Thailand

รู้ก่อนฉีด Sculptra: สุดยอดสารกระตุ้นคอลลาเจนเพื่อความเติมเต็มของผิว
รู้ก่อนฉีด sculptra  สุดยอดสารกระตุ้นคอลลาเจนเพื่อความเติมเต็มของผิว

รู้ก่อนฉีด Sculptra: สุดยอดสารกระตุ้นคอลลาเจนเพื่อความเติมเต็มของผิว

เมื่อคนเราอายุมากขึ้น ผิวหน้าเราจะเริ่มสูญเสียความตึงและความเต็มในผิวและจะก่อให้เกิดริ้วรอย ตีนกาและรูปโครงหน้าเก่าไป ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ามากขึ้นจึงได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ Sculptra ซึ่งจะมาช่วยย้อนกลไกความแก่และย้อนวัยกลับไปให้ดูเด็กและมีความเป็นธรรมชาติเหมือนเดิม

 

ถ้าคุณกำลังมองหาวิธีที่ปลอดภัยและเห็นผลในการฟื้นฟูและเติมเต็มผิวให้กลับไปดูเด็กลงอีกครั้ง Sculptra เป็นสารกระตุ้นคอลลาเจนหรือ Collagen bio stimulator ที่จะมาตอบโจทย์สิ่งที่คุณกำลังกังวลอยู่อย่างแน่นอน

 

ในบทความนี้มาเรียนรู้การทำงานของ Sculptra ว่าสามารถไปกระตุ้นคอลลาเจนได้อย่างไร กลไกของสาร PLLA เป็นอย่างไร และความมหัศจรรย์ของผลิตภัณฑ์ตัวนี้ที่ไม่มีอะไรมาเทียบได้

 

สิ่งที่ควรรู้ก่อนจะฉีด Sculptra

  1. Sculptra คืออะไร?
  2. Sculptra เหมาะกับใคร? 
  3. สาร PLLA คืออะไร?
  4. Sculptra ทำงานอย่างไร?
  5. ความสำคัญของคอลลาเจนในการฟื้นฟูผิว
  6. คอลลาเจนมีกี่ชนิดแล้วแตกต่างกันอย่างไร?
  7. Sculptraแตกต่างกับสารเติมเต็มตัวอื่นอย่างไร?
  8. ข้อดีและความเสี่ยงของ Sculptra ? ปลอดภัยหรือไม่?
  9. Sculptra ต้องใช้กี่ CC? อยู่ได้นานแค่ไหน?
  10. การเตรียมตัวก่อนทำ Sculptra
  11. การดูแลตัวเองหลังทำ Sculptra
  12. ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้หลังฉีด Sculptra
  13. โปรแกรมที่เหมาะแก่การทำร่วมกับ Sculptra แล้วจะเห็นผลดีที่สุด 
  14. ฉีด Sculptra ที่ไหนดี

กล่อง Sculptra สีแดงกับขวด sculptra

1. Sculptra คืออะไร?

Sculptra หรือ Collagen Biostimulator เป็นสารที่ใช้กระตุ้นการทำงานของคอลลาเจนบนผิวหนัง ซึ่งจะก่อให้เกิดความเติมเต็มและฟื้นฟูคอลลาเจน ทำให้มีโวลุ่มและดูอ่อนเยาว์ลง เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องความหย่อนคล้อย ผิวหลวม ยืดย้วยไม่กระชับ และมีริ้วรอยมากขึ้นตามอายุ ซึ่งวิธีการทำงานของจะต่างไปจากฟิลเลอร์หรือสารเติมเต็มตัวอื่นที่มีอยู่ในตลาดทั่วไป

 

ซึ่งสารประกอบหลักของ Sculptra คือสาร PLLA (Poly-L-Lactic Acid) ที่ถูกสังเคราะห์มาจากพืชที่นำมาใช้กระตุ้นคอลลาเจนหรือ Collagen Biostimulator ซึ่งก่อให้เกิดการสร้างคอลลาเจนโดยธรรมชาติ เป็นสารที่ผ่านการรับรองจากทั้งอ.ย. ไทยและ FDA ของอเมริกา(ปี 1999)ตัวแรกและตัวเดียวในโลก สามารถนำมาฉีดในตำแหน่งเฉพาะใต้ผิวหนังและจะกระจายไปทั่วพื้นผิวได้ เป็นที่นิยมนำมาใช้กับบนใบหน้ากับอย่างแพร่หลาย

 

ผลลัพธ์ของการฉีด Sculptra โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะสามารถทำให้หน้าดูเติมเต็มอย่างเป็นธรรมชาติตามระยะเวลา เพราะว่า Sculptra ไม่ได้เข้าไปเติมเต็มพื้นผิวในทันที แต่จะไปกระตุ้นให้ผิวหนังเริ่มการผลิตคอลลาเจนมากขึ้น และเมื่อคอลลาเจนในหน้าเรามีมากขึ้น ก็จะส่งผลให้หน้าเราดูเนียน มีน้ำมีนวล ดูเด็กลงและสดใสมากขึ้น

 

2. Sculptra เหมาะกับใคร? 

  • ผู้มีปัญหาผิวบาง ผิวหย่อน ผิวห้อย ดูมีอายุ 
  • ผู้มีปัญหาเรื่องหลุมสิว
  • ผู้ที่มีความกังวลเรื่องริ้วรอยบนใบหน้า
  • ผู้ที่ผ่านการทำหัตถการโปรแกรมอื่นมาแล้วยังไม่ตอบโจทย์หรือแก้ไขเรื่องความอ่อนเยาว์
  • ผู้ที่ต้องการให้ดูเด็กลง ผิวหน้าแข็งแรง อิ่มฟู
  • ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ยาวนานและไม่ต้องทำบ่อยๆ
  • ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์อย่างเป็นธรรมชาติ

 

การสร้างตัวของคอลลาเจนหลังจากผ่านไป 180 วัน

3. สาร PLLA คืออะไร?

Poly-L-Lactic Acid หรือเรียกสั้นๆว่าสาร PLLA เป็นสารที่ถูกสังเคราะห์จากพืชตัวแรกและตัวเดียวของโลก สามารถย่อยสลายได้เองและเข้ากันได้ทางชีวภาพ โดยเริ่มแรกถูกพัฒนามาเพื่อใช้ในการรักษาเช่นสามารถพบเจอได้ในไหมละลายที่ใช้เย็บแผล และในปัจจุบันได้ถูกพัฒนาเพื่อนำมาใช้ในแง่ความงาม เนื่องจากว่ามีคุณสมบัติในการกระตุ้นคอลลาเจนดีเยี่ยม

 

เมื่อ Sculptra ได้ถูกฉีดเข้าไปใต้ชั้นผิว สาร PLLA ที่มีอนุภาพขนาดเล็กจะทำหน้าที่ไปกระตุ้นไฟโบรบลาสต์(Fibroblast) ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของคอลลาเจน ทำให้เกิดการสร้างคอลลาเจน type 1 ขึ้นมาใหม่ได้มากถึง 66.5% ที่ใต้ชั้นผิว เพิ่มความแข็งแรงให้กับโครงสร้างภายใน โดยบนผิวหน้าเรานั้นจะสามารถพบคอลลาเจน type 1 นั้นได้มากที่สุด

 

สิ่งที่ควรจะทำความเข้าใจคือการทำโปรแกรม Sculptra จะไม่เห็นผลได้ทันที แต่เป็นการวางแผนในการฟื้นฟูผิวระยะยาวและทำให้ผลลัพธ์ที่ได้นั้นอยู่ได้ยาวนานและเป็นธรรมชาติมากกว่าโปรแกรมอื่นๆ ซึ่งโปรแกรมอาจจะต้องใช้การฉีดอย่างต่อเนื่องมากกว่าหนึ่งครั้ง โดยห่างกันประมาณ 4-5 อาทิตย์ คนไข้จะรู้สึกและเห็นได้ถึงการเปลี่ยนแปลงได้หลังจากทำไปแล้วประมาณ 1 เดือนและผลลัพธ์อยู่ได้นานถึง 25 เดือน

 

4. Sculptra ทำงานอย่างไร?

Sculptra จะเข้าไปกระตุ้นให้ร่างกายผลิตคอลลาเจนมากขึ้นใต้ชั้นผิว โดยเป็นการแก้ปัญหาที่จุดเริ่มต้นของปัญหาโดยแท้จริง

 

โดยตัวยาในขวดจะมาเป็นผง ซึ่งต้องนำไปผสมกับน้ำกลั่นปราศจากเชื้อ (Sterile Water) และนำไปเขย่าให้เข้ากันและละลาย หลังจากนั้นจึงนำไปฉีดที่ชั้นผิวหนังไขมันชั้นลึก (Subcutaneous) เนื่องจากว่าถ้าฉีดใกล้ชั้นผิวบนมากไปอาจจะเกิดตุ่มนูนๆ เล็กๆ(nodule) ขึ้นมาได้ 

 

โดยผลลัพธ์หลังฉีดในทันทีจะรู้สึกได้ว่าหน้าเติมเต็มขึ้นในทันทีเพราะว่าปริมาตรน้ำที่ถูกฉีดเข้าไป ซึ่งผลจะอยู่ได้ 2 - 3 วัน หลังจากนั้นริ้วรอยหรือความหย่อนจะกลับมาใหม่เพราะน้ำนั้นได้ถูกซึมซึบเข้าไปแล้ว คงเหลือไว้เพียงแต่ Sculptra เท่านั้น ซึ่งอนุภาคของ Sculptra จะเริ่มเข้าไปกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายและส่งสัญญาณไปยังที่ไฟโบรบลาสต์ ตัวไฟโบรบลาสต์เป็นเซลล์ต้นกำเนิดในการสร้างเส้นใยคอลลาเจนในร่างกาย ทำให้โครงสร้างของเรานั้นแข็งแรงและมีความกระชับมากขึ้น 

 

ซึ่งหลังจากเวลาผ่านไปแล้วอนุภาคของ Sculptra จะค่อยๆหายไป แต่ว่าเส้นใยคอลลาเจนที่ถูกสร้างมา จะช่วยฟื้นฟูและเสริมความแข็งแรงให้กับผิวหน้าได้ในระยะยาวมากถึง 2 ปี

 

รูปการเสื่อมของคอลลาเจนใต้ผิวเมื่อแก่ลง

5. ความสำคัญของคอลลาเจนในการฟื้นฟูผิว

คอลลาเจนถูกเรียกว่าเป็นพื้นฐานที่สำคัญที่สุดของสุขภาพผิว มีหน้าที่ในการสร้างรากฐาน ความกระชับ ความเต่งตึงและสุขภาพผิวโดยรวม ถ้าร่างกายขาดคอลลาเจนก็จะขาดความสดชื่น หน้าแห้ง และหมดความยืดหยุ่นไปเหลือแต่ความเหี่ยวย่น

 

ตอนคนเราอายุยังน้อย ร่างกายยังสามารถผลิตคอลลาเจนได้ตามปกติและในปริมาณที่มาก ซึ่งทำให้ผิวเรามีความกระจ่างใสและดูเด็ก แต่เมื่อเราอายุมากขึ้นและเจอสิ่งแวดล้อมที่ทำร้ายร่างกายเราเช่น การเจอแดด มลภาวะและไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป จึงทำให้เกิดการเสื่อมกับคอลลาเจนอย่างรวดเร็ว 

 

โดยหลังจากอายุ 30 ขึ้นไป คนเราจะสูญเสียคอลลาเจนประมาณ 1-2 % ต่อปี และผิวเราก็เริ่มบางลง การขาดคอลลาเจนก็เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่ทำให้เราเริ่มดูแก่ลง

 

อ่านต่อเรื่องคอลลาเจน

 

ชนิดคอลลาเจนที่สำคัญในร่างกายมนุษย์

6. คอลลาเจนมีกี่ชนิดแล้วแตกต่างกันอย่างไร?

คอลลาเจนประกอบด้วยโปรตีนหลายชนิด หลายชนิดสามารถพบเจอได้ในร่างกายคน คอลลาเจนแต่ละชนิดทำหน้าที่แตกต่างกันไป แต่ในส่วนของสุขภาพผิวและการฟิ้นฟูด้านความงามนั้น คอลลาเจนชนิดที่ 1 และ ชนิดที่ 3 จะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด

 

คอลลาเจน ชนิดที่ 1: เป็นคอลลาเจนที่พบได้มากในชั้นผิวหนัง เอ็น กระดูกและเนื้อเยื่อในร่างกาย เป็นคอลลาเจนที่มีหน้าที่สร้างความแข็งแรงให้กับผิวหนังและทำให้ผิวกระชับและดูเต่งตึง เมื่อเราอายุเยอะขึ้นร่างกายเราสร้างคอลลาเจนชนิดที่ 1 ได้น้อยลง ซึ่งทำให้ความยืดหยุ่นน้อยลงและเกิดริ้วรอยมากขึ้น

 

คอลลาเจน ชนิดที่ 3: พบมากที่สุดในกล้ามเนื้อ คอลลาเจนชนิดนี้มีส่วนช่วยในการสร้างมวลกล้ามเนื้อและการซ่อมแซมของแผล Sculptra จะไปกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน ชนิดที่ 3 และจะเปลี่ยนเป็นคอลลาเจน ชนิดที่ 1 ต่อมานั่นเอง

 

7. Sculptraแตกต่างกับสารเติมเต็มตัวอื่นอย่างไร?

สิ่งที่แตกต่างมากที่สุดคือผลลัพธ์หลังทำทันที โดยปกติแล้วสารเติมเต็มหรือฟิลเลอร์ต่างๆนั้นจะเห็นผลทันทีหลังทำแต่ว่า Sculptra นั้นทำงานไม่เหมือนกับฟิลเลอร์ทั่วไปดังนี้ คลิกเพื่อดูรูป

 

ฟิลเลอร์ทั่วไป:

  • เห็นผลทันที
  • ผลลัพธ์อยู่ได้ชั่วคราว (6-12เดือน)
  • เติมเต็มริ้วรอยและรอยย่น
  • ส่วนประกอบสำคัญคือไฮยาลูโนริค (สาร HA)

 

Sculptra:

  • ผลลัพธ์หลังทำชัดเจน 1 เดือน
  • อยู่ได้นานมากกว่า 25 เดือน
  • กระตุ้นการทำงานของคอลลาเจน
  • ประกอบด้วยสาร PLLA หรือ Poly-L-Lactic Acid
  • เหมาะสำหรับคนที่อยากฟื้นฟูใบหน้าอย่างยั่งยืนและอย่างเป็นธรรมชาติ

 

ซึ่งการเลือกใช้นั้นจะขึ้นอยู่กับความต้องการของคนไข้ และควรมาจากคำแนะนำของหมอที่เชี่ยวชาญแล้วเท่านั้น

 

8. ข้อดีและความเสี่ยงของ Sculptra ? ปลอดภัยหรือไม่?

ข้อดีของ Sculptra

  • ผลลัพธ์ชัดเจนและเป็นธรรมชาติ: Sculptra จะค่อยๆกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ดังนั้นผลลัพธ์ที่ได้คือความเป็นธรรมชาติและดูเนียน จะไม่ได้เปลี่ยนแปลงปุบปับ เหมาะสมหรับคนที่ชอบความเป็นธรรมชาติ
  • ผลลัพธ์อยู่นาน: เทียบกับสารเติมเต็มทั่วไปที่อยู่ได้ 6 ถึง 12 เดือน Sculptra สามารถอยู่ได้นานถึง 25 เดือน
  • ออกแบบโปรแกรมรายบุคคลได้: เช่นริ้วรอยบางจุดบนใบหน้า กะเปาะแก้ม ร่องน้ำหมากเป็นต้น
  • ฟื้นไว: สามารถกลับไปใช้ชีวิตตามปกติหลังทำได้ทันที
  • ฟื้นฟูคอลลาเจน: Sculptra นอกจากทำให้ดูดีภายนอกด้วย ยังฟื้นฟูคอลลาเจนภายในทำให้เป็นการดูแลผิวระยะยาวได้ด้วย

 

ความเสี่ยงของ Sculptra (เกิดขึ้นได้ยาก)

  • ความบวม ช้ำหลังทำ
  • อาการคัน
  • ปุ่มหรือตุ่มในเนื้อหลังทำ (สามารถแก้ไขได้ด้วยการนวด)

 

 

Sculptra ต้องใช้กี่ขวด?

9. Sculptra ต้องใช้กี่ CC? อยู่ได้นานแค่ไหน?

การคิดง่ายๆคือเอาอายุตัวเองหารด้วย 10 จึงจะประมาณคร่าวๆได้ว่าใช้กี่ขวด

ตัวอย่างเช่น: อายุ 42 ปี หารด้วย 10 ก็จะได้ 4 ขวด 

ซึ่งการฉีดนั้นไม่จำเป็นต้องฉีดภายในครั้งเดียว อาจจะแบ่งการฉีดออกเป็นสองถึงสามครั้งก็ได้เป็นต้น

ผลลัพธ์ของ Sculptra สามารถอยู่ได้นานถึง 25 เดือนหลังจากทำโปรแกรมครบแล้ว

 

10. การเตรียมตัวก่อนทำ Sculptra

- เว้นการทำหัตถการอื่นก่อนฉีด Sculptra 2 อาทิตย์

- งดวิตามินต่างๆ 1 สัปดาห์ก่อนฉีด เพื่อป้องกันการเลือดออกแล้วหยุดยาก และป้องกันการบวมช้ำเกินเหตุ

- งดยาแก้ปวดจำพวก แอสไพรินหรือ NSIADs เช่น Ibuprofen, Diclofenac, Ponstan 

- ไม่อยู่ในภาวะตั้งครรภ์

- แจ้งโรคประจำตัวกับแพทย์ก่อนทำทุกครั้ง

 

ขั้นตอนการนวดผิวหลังฉีด Sculptra

11. การดูแลตัวเองหลังทำ Sculptra

การดูแลตัวเองหลังฉีด Sculptra เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ทำไปออกมาได้ดีที่สุด การนวดจุดที่ฉีดจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก โดยหลักการคือจะเน้นการนวด วันละ 5 ครั้ง ครั้งละ 5 นาที และทำติดต่อกัน 5 วัน คลิกเพื่อดูวีดีโอสาธิตการนวด

 

นอกจากการนวดหน้าแล้วอย่างอื่นที่ต้องทำมีดังนี้

  1. ประคบเย็น: เพื่อลดอาการบวมและความเจ็บปวด
  2. เลี่ยงแดด: เพราะว่าแสง UV จะทำให้อาการบวมหรือระบมหายช้าลง
  3. หลีกเลี่ยงการทำหัตถการอื่นๆเป็นเวลา 1 เดือนอย่างเช่น โบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ อัลเทอร่า เป็นต้น

 

12. ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้หลังฉีด Sculptra

หลังฉีด Sculptra อาจจะมีอาการบวมหรือระคายเคืองได้ใน 1 -2 วันแรกในบริเวณที่ฉีด อาจจะมีอาการนูนหรือมีตุ่มขึ้นได้(Nodule) ซึ่งสามารถกำจัดได้ด้วยการนวดหน้าตามขั้นตอนที่กล่าวมาด้านบน

 

Sculptra จะสามารถสลายตัวเองได้ตามธรรมชาติโดยไม่ทิ้งสิ่งตกค้างในร่างกายไว้ เพราะว่าเป็นสารสังเคราะห์มากจากพืชและได้รับการจดทะเบียนรับรองในประเทศอเมริกาแล้ว (US FDA) รวมถึงแพทย์ที่ฉีดต้องมีความเชี่ยวชาญ จึงมั่นใจได้ว่าปลอดภัยแน่นอน

 

13. โปรแกรมที่เหมาะแก่การทำร่วมกับ Sculptra แล้วจะเห็นผลดีที่สุด 

เนื่องจากว่า Sculptra เป็นการกระตุ้นคอลลาเจนใต้ชั้นผิวหนังทำให้ดูอิ่มและฟู โปรแกรมที่เหมาะกับการทำร่วมกับ sculptra ควรจะเป็นอะไรที่ทำให้ผิวหนังมีความยกหรือกระชับมากขึ้นเช่นกัน เช่น Ulthera Hifu ร้อยไหม หรือศัลยกรรมดึงหน้า เป็นต้น

 

ทั้งนี้ทั้งนั้น ควรปรึกษาแพทย์และแจ้งโปรแกรมที่เคยทำมาพร้อมทั้งระยะเวลาที่ทำมาก่อนด้วยทุกครั้งเพราะว่าการทำโปรแกรมต่างๆควรต้องเว้นเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น

14. ฉีด Sculptra ที่ไหนดี?

สถานที่ฉีด Sculptra ควรเป็นที่ๆปลอดภัย สะอาด และมีใบรับรองจากกระทรวงสาธารณสุขแล้วเท่านั้น

แพทย์ที่ทำการใช้ Sculptra ควรต้องมีใบรับรองการฝึกฝนมาแล้วจากผู้เชี่ยวชาญและตัวแทนนำเข้าเท่านั้น

ที่สำคัญคือควรเช็คว่าคลินิกที่ทำได้ซื้อยาที่ถูกต้องผ่านตัวแทนนำเข้าแล้วเท่านั้นหรือไม่

 

 

 

facebook icon ig icon icon line phone icon google map icon